Phu Langka อุทยานภูลังกา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จ.พะเยา เกิดขึ้นที่ป่าสงวนแห่งชาติน้ำปวย โดยทั่วไปจะมีป่าเขียวชอุ่ม เช่น ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง พื้นที่ทั้งหมดมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ประมาณ 12,480,000 ตารางเมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 900-1,720 เมตร
Phu Langka อุทยานภูลังกา
นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้หายากอีกมากมาย สำหรับสัตว์มี กระรอก เสือ หมี นก หมู ฯลฯ ทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมดมีมากมาย คุณจะต้องชอบบรรยากาศที่นั่น มีป่าไม้และภูเขามากมาย คุณสามารถเห็นภูเขามากมายจากระยะไกล แต่ที่สูงสุดคือภูเทวาดา ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,720 เมตร
เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการชมหมอก คุณควรไปถึงที่นั่นในช่วงฤดูหนาว เป็นสถานที่ศึกษาระบบนิเวศของป่าดิบและลำธารน้ำตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งมีสัตว์ต่างๆ มากกว่า 100 สายพันธุ์และทะเลหมอกอันงดงาม สถานที่น่าสนใจในสถานที่ที่งดงามแห่งนี้ ได้แก่ ยอดเขาภูลังกา ยอดภูนม ดอกคลองคลอง ทุ่งดอกโรโดเดนดรอนอินเดีย น้ำตกภูลังกา ลานหินล้านปี หินแยงฟ้า ป่าเกาะโบราณ
และร่องรอยตำนานของกลุ่มคอมมิวนิสต์ในอดีต สถานที่นี่มีที่พักและพื้นที่กว้างให้กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งนี้ ได้แก่ น้ำตกตาดคำ เป็นน้ำตกสี่ชั้นที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ร่มรื่นและทุ่งหินเหมาะสำหรับการพักผ่อน น้ำตกชั้นสุดท้ายมีน้ำตลอดปี น้ำตกตาดโพธิ์
มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาภูลังกา น้ำตกทั้งสองแห่งสามารถลงเล่นน้ำได้โดยที่น้ำตกตาดคำนั้นลงน้ำได้ง่ายที่สุด ด้วยเหตุผลนี้ จึงขอแจ้งให้ทราบว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ น้ำตกแห่งนี้จะเต็มไปด้วยครอบครัวชาวไทยที่มาพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ในขณะที่เด็กๆ กำลังเล่นน้ำ
อุทยานแห่งชาติภูลังกาเหมาะสำหรับทุกคน อย่างไรก็ตาม กิจกรรมต่างๆ เช่น ว่ายน้ำในน้ำตกตาดโพหรือเดินตามเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งจำเป็นต้องมีสภาพร่างกายที่ดีและรองเท้าและเสื้อผ้าที่เหมาะสม เช่นเดียวกับอุทยานแห่งชาติอื่น ๆ ในประเทศไทย จะต้องเสียค่าเข้าชม สำหรับชาวต่างชาติที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา 200 บาท/คน
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเข้าอุทยานได้ตลอดทั้งวันที่ทางเข้าต่างๆ ที่น้ำตกทั้งสองมีห้องแต่งตัวพร้อมฝักบัวอาบน้ำฟรี
สนับสนุนโดย : ufabet777
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *